HDL คือ ไขมันที่มีความหนาแน่นสูง เป็นไขมันที่ดีสำหรับหลอดเลือดแดงเพราะจะป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี คือ โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL ไปพอกสะสมในหลอดเลือดแดง
ส่วน LDL คือ ไขมันที่ความหนาแน่นต่ำ เป็นไขมันที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นไขมันไม่ดี
HDL ย่อมาจากคำว่า high density lipoprotein
คือ ไขมันที่มีความหนาแน่นสูง
เป็นไขมันที่ดีสำหรับหลอดเลือดแดงเพราะจะป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี คือ
โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL ไปพอกสะสมในหลอดเลือดแดง ถ้ามีระดับ
HDL ในเลือดต่ำ ก็จะเพิ่มโอกาส
เพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือ
หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น
ระดับปกติในผู้ที่ยังไม่เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็งควรจะไม่ต่ำกว่า ๔๐ มก./ดล.
ระดับ HDL ในเลือดของคุณอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลดี
LDL ย่อมาจากคำว่า low density lipoprotein
คือ ไขมันที่ความหนาแน่นต่ำ เป็นไขมันที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
วิธีการวัดระดับ LDL ในเลือด ทำได้ ๒ วิธี คือ วิธีคำนวณค่า LDL
จากค่าโคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์และ HDL ในเลือด โดยใช้สูตร LDL=
โคเลสเตอรอล-(ไตรกลีเซอไรด์/5) -HDL ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
ส่วนอีกวิธีหนึ่งเป็นวิธีหาค่า LDL โดยตรงจากเลือด
ทำได้บางโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เท่านั้น
ระดับ LDL ปกติในคนทั่วไปสูงไม่เกิน ๑๓๐ มก./ดล. ถ้าระดับ LDL ในเลือดระหว่าง ๑๓๐-๑๕๙ ถือว่าสูงปานกลาง ๑๖๐-๑๘๙ ถือว่าสูง ระดับมากกว่า ๑๙๐ ถือว่า สูงมาก ระดับ LDL ของคุณอยู่ในระดับสูงปานกลางซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง คือ
อาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมาก เช่น กะทิ น้ำมันปาล์ม หมู ๓ ชั้น หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก หนังสัตว์ เนย ไส้กรอก เป็นต้น
อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ หอยนางรม เป็นต้น